รวมสุดยอดยนตรกรรม ROLLS-ROYCE BESPOKE แห่งปี
ข่าวทั้งหมด : / รวมสุดยอดยนตรกรรม ROLLS-ROYCE BESPOKE แห่งปี
“เป็นปีแห่งปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและไม่คาดคิด
เมื่อ House of Rolls-Royce ได้สร้างสถิติยอดขายประจำปีสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ
117 ปีของประวัติศาสตร์แบรนด์
เราได้ทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อขยายขอบเขตของความคิดสร้างสรรค์ภายในทีมงาน Bespoke
Collective ของเรา ส่งผลให้เกิดการรังสรรค์ผลงานบีสโป๊กที่โดดเด่นอย่างแท้จริง
Rolls-Royce ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความเข้าใจในธรรมชาติของงานหัตถศิลป์
โดยเน้นการใช้เทคนิคที่ล้ำสมัย และดึงความสามารถเฉพาะของทีมงานผู้เปี่ยมด้วยทักษะและพรสวรรค์อย่างมากของเราออกมา
ช่างฝีมือยังคงขยายขอบเขตของความเป็นไปได้ในการสั่งผลิตพิเศษ ด้วยการใช้วัสดุล้ำค่าและหายากผนวกกับความเฉลียวฉลาดช่างคิดในการสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกที่มีความเป็นเลิศในสาขาของตน
ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผลงานยนตรกรรมสั่งผลิตพิเศษที่โดดเด่นเหล่านี้
ซึ่งได้ส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกในปีพ.ศ. 2564”
Torsten Müller-Ötvös, Chief Executive, Rolls-Royce Motor Cars
ในปีพ.ศ. 2564 House of Rolls-Royce ได้รังสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊กที่มีความแปลกใหม่และงดงามตามคำสั่งผลิตของลูกค้าให้เป็นรูปธรรม
ส่งผลให้การผลิตแบบสั่งทำพิเศษมีความก้าวหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้ Rolls-Royce ได้คิดค้น
พัฒนา และนำเสนอการตีความของความหรูหราที่แท้จริงในรูปแบบใหม่และท้าทาย ส่งผลให้เกิดผลงานหัตถศิลป์ร่วมสมัยที่ดีที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ
Rolls-Royce Bespoke Collective คือทีมวิศวกร
นักออกแบบ และช่างฝีมือชั้นยอดที่ทำงานที่ Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูด ประเทศอังกฤษ ผู้นำแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์และบุคคลในประวัติศาสตร์
งานศิลปะเลื่องชื่อ คอลเล็กชั่นวัตถุโบราณส่วนบุคคล ธรรมชาติ และโลกแห่งสถาปัตยกรรมมารังสรรค์ยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริงที่แสดงออกถึงสไตล์และบุคลิกเฉพาะตัวของเจ้าของรถ
ภายในปีที่ผ่านมาได้เห็นการประกาศครั้งสำคัญของแบรนด์
ตั้งแต่การคาดการณ์ของ Spectre รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกที่จะออกสู่ตลาดในปีพ.ศ.
2566 และการเปิดตัวของอีกหนึ่งตัวตนของ Ghost นั่นคือ Black Badge Ghost แสดงให้เห็นว่า Rolls-Royce
ยังคงกำหนดอนาคตของโลกแห่งความหรูหรา
ต่อไปนี้คือสุดยอดผลงานหัตถศิลป์ การออกแบบ และงานวิศวกรรมที่สั่งผลิตพิเศษซึ่งถูกรังสรรค์ขึ้นโดยแบรนด์ในช่วงปีพ.ศ.
2564
BOAT TAIL
การรังสรรค์ Boat Tail ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกอนาคตที่สำคัญสำหรับการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษสมัยใหม่
โดย Rolls-Royce ยืนยันว่าการรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษ
(Coachbuild) จะเป็นบริการถาวรของบริษัทฯ
ในอนาคต Boat Tail เป็นงานหัตถศิลป์ชิ้นเอกที่มีขนาดใหญ่
ซึ่งทั้งตัวถังรถและภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบและสร้างสรรค์ขึ้นจากการปรึกษาหารืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าเพื่อให้ทุกอย่างถูกต้องเป็นไปตามที่ลูกค้ากำหนดทุกประการ การสร้างสรรค์ดังกล่าวบอกเล่าเรื่องราวอันแสนโรแมนติกในประวัติศาสตร์ของโรลส์-รอยซ์ที่สะท้อนการออกแบบรูปร่างของท้ายเรือแต่ไม่ได้ลอกเลียนอย่างชัดเจน
โดยหลอมรวมรูปร่างตัวถังในอดีตเข้ากับการออกแบบร่วมสมัยที่ละเอียดลออ
รูปทรงของ Boat Tail ถูกรังสรรค์ขึ้นจากแบบจำลองขนาดจริงทำจากดินเหนียวปั้นขึ้นรูปด้วยมือและนำมาทำสำเนาใหม่ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อสร้างตัวถังรถขึ้นจากแผ่นอลูมิเนียมที่ใช้ค้อนตีด้วยมือ
การรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษของ Rolls-Royce ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ในขณะที่ยังคงอนุรักษ์การรังสรรค์ตัวถังรถแบบสั่งทำพิเศษแบบดั้งเดิมไว้ด้วยความระมัดระวัง ความชัดเจนของพื้นผิวและการต่อลายถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยการปรับแต่งด้วยมืออย่างต่อเนื่องซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ด้วยเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว
Rolls-Royce Coachbuild นำพาอุตสาหกรรมสินค้าหรูในวงกว้างขึ้นไปสู่อีกด้านที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
ที่ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ในการรังสรรค์ผลงานที่มีความเฉพาะบุคคลสูงได้อย่างไร้ขีดจำกัด ความร่วมมือด้านงานศิลปะกับ BOVET 1822 เพื่อสร้างสรรค์นาฬิกาแบบพลิกกลับด้านได้ 2 เรือนสำหรับยนตรกรรม Boat Tail ทำให้เห็นถึงผลงานที่มีเอกลักษณ์จากสองแบรนด์หรูชั้นนำที่ไม่เหมือนกับที่เคยสร้างสรรค์มาก่อน
KRYPTOS WRAITH
ปีพ.ศ. 2564 ได้ทำการส่งมอบยนตรกรรมใน Wraith Kryptos
Collection ล็อตสุดท้ายให้กับเจ้าของ ยนตรกรรมทั่วโลก โดยเมื่อครั้งที่มีการเผยโฉมคอลเล็กชั่นยนตรกรรมลึกลับนี้ซึ่งได้นำไปสู่การจุดประกาย
การเดินทางสู่การไขรหัสลับที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2563 ยนตรกรรมในคอลเล็กชั่นนี้เต็มไปด้วยข้อความรหัสซ่อนตัวอย่างกลมกลืนในรายละเอียดของยนตรกรรม
สำหรับสายตาที่ไม่คุ้นชินกับการออกแบบที่แปลกตาเป็นเอกลักษณ์มันคือสุนทรียศาสตร์ ซึ่งเป็นผลรวมขององค์ประกอบที่รวมกันเพื่อสร้างสรรค์รูปลักษณ์ภายนอกที่ปราดเปรียว
อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกค้าของโรลส์-รอยซ์ผู้ที่มีความอยากรู้อยากเห็น ยนตรกรรมนี้มีรหัสลับที่ต้องหาคำตอบและผู้ชนะที่สามารถไขปริศนาสำเร็จจะได้รับรางวัลที่มีเพียงรางวัลเดียวเท่านั้น
ความพยายามที่จะไขปริศนาได้เริ่มต้นขึ้นแล้วจากทั่วโลกด้วยทฤษฎีที่ละเอียดซับซ้อนและบทสรุปการวิเคราะห์
ต่าง ๆ มากมายถูกส่งไปยัง Home of Rolls-Royce ในกู้ดวูดเพื่อเฟ้นหาผู้ชนะ จวบจนปัจจุบัน ด้วยความร่วมมือระหว่างผู้ที่ชื่นชอบการเข้ารหัสและลูกค้าได้ร่วมกันไขรหัสบางส่วนได้สำเร็จแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม การไขปริศนาขั้นสุดท้ายยังคงไม่สำเร็จ
ฉะนั้น การแข่งขันเพื่อถอดรหัส Wraith Kryptos ยังคงต้องดำเนินต่อไป
PHANTOM ORIBE
การทำงานร่วมกันที่ไม่เหมือนที่ใดระหว่าง House of Rolls-Royce และ House
of Hermès ที่ร่วมกันสร้างสรรค์ยนตรกรรมบีสโป๊ก Phantom ให้แก่นักธุรกิจชาวญี่ปุ่น Yusaku Maezawa ยนตรกรรมภายใต้ชื่อ
Phantom Oribe โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายนอกด้วยสีทูโทนสั่งทำพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก
Oribe ware เครื่องถ้วยชามเซรามิกญี่ปุ่นโบราณที่เป็นคอลเล็กชั่นระดับโลกของลูกค้า
เพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นเมื่อ
Rolls-Royce
ได้ผลิตสีพิเศษให้กับลูกค้าเพื่อใช้สำหรับเครื่องบินส่วนตัวเพื่อให้เข้ากับสีของยนตรกรรมPhantom
ของเขาอีกด้วย
ภายในยนตรกรรมตกแต่งด้วยหนังของ Hermès สี Enea
Green เป็นหลัก และยังถูกใช้ในส่วนรายละเอียดที่ลูกค้าสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าไปในห้องโดยสาร
เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือของระหว่าง
2 แบรนด์หรูในการสร้างสรรค์ยนตรกรรมครั้งนี้
ฝาปิดช่องเก็บของด้านหน้าปักข้อความลายนูนว่า Habillé par Hermès Paris (ตกแต่งโดย Hermès ปารีส)
ในส่วนของแกลเลอรี่ใน Phantom Oribe ได้คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของยนตรกรรมโรลส์-รอยซ์ด้วยแกลเลอรี่ที่พาดผ่านตามแนวยาวบริเวณแผงหน้าปัดด้านหน้ารถ
นำเสนองานศิลปะที่อ้างอิงจากการออกแบบโดยศิลปินและนักวาดภาพประกอบผู้โด่งดังชาวฝรั่งเศส
Pierre Péron (ปีพ.ศ. 2448-2531) ผู้สร้างสรรค์ผลงานลวดลายผ้าพันคออันเป็นเอกลักษณ์ของ
Hermès มาแล้วมากมาย
โดยผลงานในแกลเลอรี่ได้รับแรงบันดาลใจจากลายม้าที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ถูกบรรจงวาดด้วยมือลงบนแผงไม้รอยัล
วอลนัทที่เผยให้เห็นลายไม้ธรรมชาติ และถูกนำเสนอภายใต้บานกระจกให้ความรู้สึกเหมือนกำลังชมรูปภาพที่จัดแสดงอยู่ภายในแกลเลอรี่
PHANTOM
TEMPUS COLLECTION
Phantom Tempus Collection ทำให้ Rolls-Royce
Phantom กลายเป็นเรื่องของการสั่งผลิตที่สุดพิเศษและหายากด้วยจำนวนจำกัดเพียง
20 คันเท่านั้น การตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของยนตรกรรม
Phantom นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ ‘เวลา’ หมุนผ่านไปและสามารถทำให้ประหนึ่งหยุดนิ่งได้
งานออกแบบได้รวมไว้ซึ่งสุนทรียศาสตร์
และความชาญฉลาดภายใต้แนวคิดที่หลากหลายและเกี่ยวพันกับเวลา และจักรวาล
องค์ประกอบสำคัญที่แสดงไว้บนเพดานห้องโดยสารอย่างวิจิตรบรรจง คือ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
นั่นคือ พัลซาร์ (Pulsar)
ที่ไม่มีใครเคยรู้จักจนกระทั่งปีพ.ศ. 2510 และสามารถพบปรากฏการณ์นี้ได้
ณ จุดที่ลึกที่สุดของอวกาศ (พัลซาร์ที่ถูกค้นพบที่อยู่ใกล้โลกมากที่สุดในระยะทาง
280 ปีแสง หรือ1,680 ล้านล้านไมล์จากโลก) พัลซาร์เป็นดาวนิวตรอนที่ความหนาแน่นสูง
หมุนรอบตัวเองด้วยความเร็วสูงและปลดปล่อยคลื่นวิทยุออกมาเป็นจังหวะที่เสถียรทำให้พวกมันถูกอ้างอิงว่าเป็นนาฬิกาจักรวาลที่แม่นยำที่สุดอย่างหนึ่ง
สีตัวถังของ Phantom Tempus
Collection นี้มาในสีสั่งทำพิเศษใหม่ Kairos Blue ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อสื่อถึงความมืดและความลี้ลับของห้วงอวกาศ
สีพิเศษนี้มีส่วนผสมของผงไมก้าสีฟ้า
ส่องประกายวิบวับแวววาวเมื่อยามต้องแสงเป็นตัวแทนของหมู่ดาว
ตัดกับรายละเอียดตกแต่งสีดำภายนอกเพิ่มความโดดเด่น
PHANTOM KOA
Phantom Koa คือ Rolls-Royce Phantom คันแรกที่ใช้ไม้โคอะ
(Koa) ซึ่งเป็นไม้พันธุ์หายากที่เจริญเติบโตบนเกาะฮาวายเท่านั้น แรงบันดาลใจนี้มาจากการที่ผู้ที่ชื่นชอบหลงใหลในรถยนต์อย่าง
Jack
Boyd Smith, Jnr. และ Laura ภรรยาของเขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่บนเกาะเมาวีในหมู่เกาะฮาวาย
และมีความชื่นชอบในลักษณะลวดลายและความรู้สึกที่ดูอบอุ่นของไม้ชนิดนี้
ต้นโคอะไม้หายากนี้เจริญเติบโตที่ฮาวายเท่านั้น
และยังเป็นพันธุ์ไม้สงวนของอุทยานแห่งชาติและของรัฐฮาวาย
อีกด้วย อีกทั้ง
ไม้โคอะที่ใช้ได้ต้องมาจากพื้นที่การเกษตรของเอกชนเท่านั้น
ทำให้การที่จะหาท่อนไม้ที่เหมาะสมได้นั้นจึงเป็นความลำบากยากยิ่งอย่างแท้จริง ผู้เชี่ยวชาญด้านวัสดุไม้ของโรลส์-รอยซ์
กล่าวถึง การค้นหาครั้งนี้ว่า เป็น ‘โอกาสหนึ่งในล้าน’
ภายหลังจากสามปีแห่งความร่วมมือกับทีมงาน Rolls-Royce Bespoke Collective ยนตรกรรมบีสโป๊กของ Mr. Smith คันนี้ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในคอลเล็กชั่นยานยนต์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกว่า
60 คันของเขา ณ พิพิธภัณฑ์ เจบีเอส คอลเล็กชั่น (JBS Collection
Museum)
LANDSPEED COLLECTION
Rolls-Royce Landspeed Collection มีจำนวนจำกัดเพียง 25
คันสำหรับ Dawn และ 35 คันสำหรับ
Wraith โดยคอลเล็กชั่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากชีวิตอันน่าทึ่งของ
George Eyston และความสำเร็จในการทำลายสถิติของเขา อีกทั้ง ยังมีความงดงามที่เกี่ยวพันกับภูมิทัศน์ของที่ราบลานเกลือบอนเนวิลล์
(Bonneville Salt Flats) ที่ลึกลับไม่เหมือนที่ใดที่ซึ่งรถ
Thunderbolt
ทำให้เขาได้เป็นเจ้าแห่งความเร็วที่สุดในโลกแม้ว่าจะเป็นเพียงในระยะเวลาอันสั้นก็ตาม
ตลอดช่วงชีวิตของเขา George Eyston ได้รับการเชิดชูเกียรติสำคัญ 3 ครั้ง
เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ (Military Cross) เครื่องอิสริยาภรณ์เลฌียงดอเนอร์ (Chevalier
of the Légion d’honneur) และเครื่องราชอิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิอังกฤษ (OBE) เกียรติยศเหล่านี้ได้ถูกบันทึกไว้ในยนตรกรรม
Wraith Landspeed และ Dawn Landspeed ในลักษณะรายละเอียดย่อยตกแต่งที่ประตูด้านคนขับโดยการใช้ริบบิ้นผ้าไหมกรอสเกรนชนิดและสีเดียวกับริบบิ้นของเหรียญเกียรติยศเดิม
เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ภายในยนตรกรรม Wraith Landspeed ได้จำลองบรรยากาศสวรรค์ขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบดังที่ปรากฏบนที่ราบลานเกลือในวันที่
16 กันยายน ปีค.ศ. 1938 คือวันที่ Eyston
และ Thunderbolt สร้างสถิติความเร็วสูงสุดของโลกเป็นครั้งที่
3 และครั้งสุดท้าย กลุ่มดาวบนเพดานแต่ละดวงถูกสร้างสรรค์เรียงรายขึ้นด้วย
‘ดาว’ หลอดไฟเบอร์ออปติคจำนวน 2,117
ดวง นับว่าเป็นจำนวนดาวบนเพดาน Starlight Headliner ใน Rolls-Royce Wraith มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
CULLINAN ‘BLACK AND BRIGHT’
Rolls-Royce Motor Cars Moscow นำเสนอ
Cullinan 'Black and Bright' ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากบรรยากาศของกรุงมอสโกในยามค่ำคืน
ภายหลังจากความสำเร็จของ Wraith 'Black and Bright' เมื่อสองปีที่แล้ว
การตอกย้ำความสำเร็จอีกครั้งในปีพ.ศ. 2564 คือการออกแบบด้วยจิตวิญญาณเดียวกันแต่เปี่ยมด้วยความมั่นใจที่มากขึ้นกว่าเดิม
ยนตรกรรมจำนวนจำกัดนี้มีจำหน่ายเฉพาะที่ผู้แทนจำหน่ายในกรุงมอสโกเท่านั้น
ด้วยการนำเสนอยนตรกรรม Black
Badge Cullinan ในห้าสีโดดเด่นสะดุดตา ได้แก่ สีแดง Magma
Red สีส้ม Orange Metallic สีม่วง
Twilight Purple สีเหลือง Forge Yellow และสีฟ้า
Turchese แผงคาร์บอนไฟเบอร์ของ
Black Badge Cullinanได้รับการออกแบบเฉพาะให้แถบลายเส้นตัดมีสีเดียวกับภายนอกรถ
ในขณะที่เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ในตำนานสะท้อนถึงสีสันภายนอกและภายในยนตรกรรม
ในฐานะที่เป็นซีรีส์ยนตรกรรมบีสโป๊กแบบถาวรสำหรับผู้ที่ปฏิเสธที่จะถูกจำกัดอยู่ในกรอบของความหรูหราแบบดั้งเดิม
Black Badge จึงทำหน้าที่เสมือนเป็นผืนผ้าใบในการรังสรรค์ผลงานยนตรกรรมบีสโป๊กเฉพาะบุคคลเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
KENGO KUMA DAWN
Rolls-Royce และ Kengo Kuma ผสมผสานโลกแห่งยนตรกรรมหรูและสถาปัตยกรรมเข้าไว้ด้วยการเผยโฉม ยนตรกรรมบีสโป๊ก Rolls-Royce Dawn ที่มีเอกลักษณ์เพียงหนึ่งเดียว ยนตรกรรมหนึ่งเดียวคันนี้เผยโฉมครั้งแรกในฐานะตัวแทนประชาสัมพันธ์เคลื่อนที่สำหรับโครงการที่พักอาศัยหรูแห่งใหม่
‘The Kita’ ในใจกลางกรุงโตเกียวที่ออกแบบโดย Kengo
Kuma และได้รับคำสั่งผลิตพิเศษจาก Westbank บริษัทพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หรูระดับโลก
Rolls-Royce Dawn ถูกรังสรรค์ขึ้นเฉพาะสำหรับเจ้าของเพนท์เฮ้าส์ที่พักอาศัยในโครงการนี้ใช้เท่านั้น โดย The Kita Tea House เป็นเพนท์เฮ้าส์ที่มีหลายชั้นตั้งอยู่ชั้นบนสุดของโครงการที่พักอาศัยแห่งใหม่ล่าสุดที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบในใจกลางย่านคิตะซันโดะ
ภายนอกของ Dawn มาในสี Silver Haze เฉดสีหลายมิติสะท้อนถึงสีเทาเงินของวัสดุหลักที่ใช้สำหรับตัวอาคาร
และเมื่อยามถูกแสงแดดกระทบ
จะเผยสีบรอนซ์เหลือบให้ความรู้สึกอบอุ่นสะท้อนถึงสีบรอนซ์ของม่านบังตาแบบโคชิ (Koshi)
ภายนอกตัวอาคารและรายละเอียดตกแต่งภายในอาคาร เสริมความโดดเด่นด้วยฝากระโปรงหน้าสีเงินตัดกับเส้นโคชไลน์คู่สีดำ
ผสานภายในและภายนอกด้วยความรู้สึกอบอุ่นมอบสัมผัสที่ใกล้ชิดด้วยแผงไม้รอยัล วอลนัทที่เผยให้เห็นลายไม้ธรรมชาติที่บริเวณส่วนท้ายที่เก็บหลังคาเข้ากับแผงไม้วอลนัทที่ตกแต่งบริเวณล้อบบี้ทางเข้าอาคารเพนท์เฮ้าส์
SLOSS’ CULLINAN
Ben และ Christine Sloss สองสามีภรรยาผู้ชื่นชอบหลงใหลในรถยนต์และเป็นนักแข่งรถประเภท Endurance
Race สั่งผลิตพิเศษ Rolls-Royce Black Badge Cullinan กับทาง Rolls-Royce Motor Cars
Los Gatos
สีตัวถังของยนตรกรรมคันนี้มาในสีสั่งทำพิเศษ
Pikes
Peak Blue โดยชื่อของเฉดสีนี้เป็นการให้เกียรติแก่ ยอดเขาสถานที่จัดการแข่งขันปีนเขาที่มีชื่อเสียงของรัฐโคโลราโด
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมการแข่งขันที่ลูกค้าชื่นชอบ แต่งแต้มตัวถังด้านข้างด้วยเส้นโค้ชไลน์คู่สีเหลืองสด
Forge Yellow ที่บรรจงวาดด้วยมือเข้ากับสีดุมล้อ
และคาลิปเปอร์เบรก ซึ่งทั้ง 2 สีที่ใช้ใน Black Badge
Cullinan เป็นสีของธงประจำเมืองโมเดนา
และเป็นสีประจำตัวของสองสามีภรรยาคู่นี้ที่ใช้ในการแข่งรถ
GHOST EXTENDED URBAN SANCTUARY
หลังจากการเปิดตัวสู่ตลาดของ Ghost Extended ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ยนตรกรรมรุ่นนี้ได้เริ่มเดินทางไปบนเส้นทางของการบริการสั่งผลิตพิเศษ (บีสโป๊ก) สืบเนื่องจากการคิดค้นปรัชญาการออกแบบ Post
Opulent ซึ่งเป็นการเน้นการใช้วัสดุที่มีความคงทนแข็งแรงและเรียบง่าย
ยนตรกรรม Urban Sanctuary จึงเป็นการเผยโฉมการยกระดับงานไม้ปาร์เกต์เป็นครั้งแรก
งานไม้โมเสคทรงเรขาคณิตนี้ที่ตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยแผงไม้ Obsidian
Ayous ที่ไม่ได้ทาแลคเกอร์เพื่อเผยให้เห็นถึงลายไม้ธรรมชาตินั้นชวนให้นึกถึง
'ลายน้ำแข็งแตก' (Cracked Ice) บนบานหน้าต่างไม้ของศาลาภายในสวนอวี้หยวน (Yu Yuan Gardens) ในเซี่ยงไฮ้ แนวคิดการออกแบบ 'ลายน้ำแข็งแตก’
ยังคงใช้ต่อเนื่องในส่วนของงานปักบีสโป๊กที่บริเวณเบาะที่นั่ง
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยสีทูโทนสีน้ำเงินกรมท่าและสีเทา
Cashmere Grey สร้างประสบการณ์การใช้งานที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ว่าจะขับเองหรือมีคนขับ
ประสบการณ์การใช้งานแบบมีคนขับได้รับการเน้นย้ำเพิ่มเติมด้วยเบาะที่นั่ง Serenity
Seating ที่ปรับเอนได้พร้อมที่พักขา
เลียนแบบรูปแบบของเบาะที่นั่งบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เบาะที่นั่งสุดหรูนี้ถูกแต่งเติมความโดดเด่นด้วยตะเข็บสีเขียว
Lime Green
สีตัวถังภายนอกของ Urban Sanctuary มาในแบบทูโทนด้วยสี
Gunmetal และสี Jubilee Silver ที่ให้ความเรียบหรูตัดกับเส้นโคชไลน์คู่และเส้นสีติดขอบล้อสีเขียว
Lime Green บ่งบอกถึงแสงสียามราตรีในเมืองเซียงไฮ้
DREAM GHOST
Ghost Extended ได้กลายเป็นผืนผ้าใบในการรังสรรค์แดชบอร์ดเรืองแสงสั่งทำพิเศษเฉพาะบุคคลชิ้นแรกที่เป็นส่วนหนึ่งของการสั่งผลิตพิเศษโดย
David Bartosiak นักสะสมสินค้าหรูในเซาท์ฟลอริดา เขาร้องขอเป็นการส่วนตัวกับทีมงาน Rolls-Royce
Bespoke Collective ให้ปรับเปลี่ยนคำที่แสดงบนบริเวณแผงหน้าปัดเรืองแสงให้เป็นคำว่า
'DREAM' แทนคำว่า 'GHOST' เขากล่าวว่า “ความปรารถนานี้พูดถึงความฝันที่ฉันมีในวัยเด็ก
เกิดภายใต้ท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงามในปีค.ศ. 1983 ที่เมืองเวโรบีช รัฐฟลอริดา
ความฝันที่ฉันปลูกฝังให้คนรอบข้างทุกวัน และความฝันที่ฉันหวังว่าจิตวิญญาณของฉันจะคงอยู่บนโลกเมื่อฉันได้จากไปแล้ว”
การส่องสว่างเกิดขึ้นได้โดยการใช้หลอดไฟ
LED
จำนวน 152 ดวงติดตั้งด้านบนและด้านล่างของบริเวณแผงหน้ารถ เพื่อให้มั่นใจว่าหลอดไฟที่แสดงลายกราฟิกจะติดสว่างสม่ำเสมอ
จึงมีการติดตั้งท่อนำแสงหนา 2 มิลลิเมตรพร้อมการเจาะรูขนาดเล็กด้วยเลเซอร์มากกว่า 90,000 จุดทั่วพื้นผิวของบริเวณแผงหน้ารถ
ซึ่งไม่เพียงแต่กระจายแสงได้อย่างสม่ำเสมอแต่ยังสร้างความวิบวับเมื่อสายตาเลื่อนพาดผ่านบริเวณส่วนแผงหน้ารถ
สะท้อนประกายระยิบระยับอันละเอียดอ่อนของเพดานห้องโดยสารแบบ Starlight Headliner
เพดานห้องโดยสาร Starlight Headliner ที่ Mr.
Bartosiak ได้สั่งให้รังสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษนั้น นำเสนอผลงานที่มีความเฉพาะบุคคลอีกชิ้นที่สร้างสรรค์ด้วยมือ
การจัดวางตำแหน่งทางดาราศาสตร์ของดวงดาวเหนือเมืองเวโรบีช
รัฐฟลอริดาที่ปรากฏในวันเกิดของเขาในปีค.ศ. 1983 ถูกบรรยายให้เห็นภาพด้วยหลอดไฟเบอร์ออปติคจำนวน
1,236 ดวง
BESPOKE WRAITH
ลูกค้าที่อยู่ในเซี่ยงไฮ้ได้สั่งผลิตยนตรกรรมบีสโป๊ก
Wraith ที่ไม่เหมือนใครในสี
Pebble Paradiso Blue สีที่เป็นตัวแทน 'ชายทะเลเซี่ยงไฮ้ที่เป็นดั่งสวรรค์' สำหรับเธอ เส้นโค้ชไลน์คู่ที่บรรจงวาดด้วยมือในเฉดสี Seashell
โดดเด่นด้วยลวดลายกล้วยไม้อันละเอียดอ่อนที่สะท้อนถึงความหลงใหลในความสง่างามของเธอ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยงานศิลปะภาพรอยเท้าของเด็กผู้หญิงบนฝาครอบจอมอนิเตอร์สีขาว
Piano White ซึ่งเป็นการขอบคุณสำหรับความสุขที่ลูกค้าเฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนาน อีกทั้ง
ตกแต่งภายในด้วยหนังที่คงลักษณะความงามตามธรรมชาติสองเฉดสี คือสี HK-Charles
Blue และสี Seashell ส่วนเพดานห้องโดยสาร Starlight
Headliner ที่สั่งผลิตพิเศษยังคงบ่งบอกถึงการเฉลิมฉลองของกลุ่มดาวที่มีความหมายต่อลูกค้าที่แสดงถึงความชื่นชมที่มีต่อลูกสาวของเธอ
เฉดสีที่สะท้อนถึงชายทะเลเหล่านี้ พร้อมกับความรักนิรันดร์ที่มีต่อลูกสาว
และความสง่างามและงดงามของกล้วยไม้บ่งบอกถึงวิถีชีวิตโดยรวมของลูกค้า ยนตรกรรม Wraith จึงเป็นสถานที่โปรดของเธอยามที่ต้องการผ่อนคลาย
CULLINAN 50th
Cullinan ที่งดงามหนึ่งเดียวที่ไม่เหมือนใครถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ
50 ปีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในปีพ.ศ. 2564
ตัวถังภายนอกตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายด้วยการพ่นเคลือบคริสตัลบนสีขาว
Arctic
White เพิ่มความโดดเด่นด้วยเส้นโค้ชไลน์คู่ที่บรรจงวาดด้วยมือโดยเส้นบนเป็นสีแดง
Hotspur Red ส่วนเส้นล่างเป็นสีเขียว Fame Green
เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยลวดลาย
Gold
Bullion Coachline ธงประจำชาติที่ประกอบด้วยสีแดง Hotspur
Red สีเขียว Fame Green และสีดำมาในลวดลายบนเสา
C-Pillar และเส้นสีคู่ที่ศูนย์กลางของล้อรถเป็นตัวแทนของธงประจำชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เมื่อเปิดประตูรถออกจะพบกับกันรอยกาบบันไดเรืองแสงบีสโป๊กพร้อมคำว่า
'50th' การตกแต่งภายในที่เรียบง่ายสะท้อนถึงสีตัวถังภายนอก
ด้วยหนังสีขาว Arctic White สีดำและสีแดง Hotspur Red
ตัดกับลายปักสีเขียว Fame Green ของตราสัญลักษณ์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์บนพนักพิงศีรษะแต่ละข้าง
อีกทั้ง ยังมีจุดเด่นในการประดับตกแต่งคือลายสัญลักษณ์ฉลองครบรอบ 50 ปีสีทองบนแผงหน้าปัดด้านหน้า พนักพิงหลังของเบาะด้านหลังห้องโดยสาร และบนโต๊ะปิกนิก
นอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารยังโดดเด่นด้วยเพดานห้องโดยสาร Starlight
Headliner ที่งดงามพร้อมด้วยลูกเล่นที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Shooting
Star ในโทนสีเขียว
อมร วรมาลี / amornthaitelegraph@gmail.com
ขอขอบคุณ : โรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส
แสดงความคิดเห็น
คำค้นหาทั่วไป
กีฬาแต้มเท่าผีไฮไลท์ พรีเมียร์ลีกพรีเมียร์ลีกแมนเชสเตอร์ เอฟเวอร์ตันบาร์เซโลน่าพรีเมียร์ลีก อังกฤษอังกฤษพรีเมียร์ลีกคูตี้ชูมาเน่น้องเมยโดนซ้อมแฉ “น้องเมย”เตรียมทหารนักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ มารีญาพันชีวิตสุดมันส์ วิ่งนักวิ่งไทย-เทศสิงห์เติมจี๊ด!ร่วมวิ่งแอดเวนเจอร์ ข่าวกีฬาย้อนหลังรอบโลกกีฬาก้าวสู่ปีที่ 7สุโขทัยมาราธอน 2017′วิ่งเพื่อมรดกโลกศึกวอลเลย์บอลปลื้มจิตร์-นุศราโตโยต้ามอเตอร์สปอร์ตกีฬาโปรอาร์มธงชัย ใจดี โชคชัยจีทีเอ็มมอเตอร์สปอร์ตไทยToyota Motorsportสายสปีดโคราชพิสูจน์ความเร็วซิ่งกระกาย สุดมันส์กลางเชียงใหม่Super Car GTMโตโยต้า ทีมไทยแลนด์เรซที่ 3 Division 1รถยนต์โตโยต้า86ศึก RAATศึกซูเปอร์ ซีรี่ส์ 2017ซูเปอร์คาร์จีทีเอ็มสนามช้างไทยแลนด์ เรซซิ่งนักบิดมวยไชยาฟุตบอลเอเอฟซี คัพ 2017ถ่ายทอดสดฟุตบอลผลบอลสดเอเอฟซี ชิงชนะเลิศฟุตบอลสถิติเมืองทองบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเจลีกคู่แข่ง ACLเจลีกคัพข่าวกีฬา พรีเมียร์ลีก อังกฤษข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ตารางคะแนนกีฬาที่น่าสนใจ